(๓) ในกรณีที่มีการเปรียบเทียบเป็นประโยคอุปมาอุปไมย ซึ่งมี สำนวนไทยว่า “เปรียบเหมือน, เหมือน, ดังเช่น, เปรียบดัง” เป็นต้น มีข้อความที่ควรศึกษาและคำนึงถึงหลายประการ เช่น
๓.๑ จะใช้ศัพท์อะไรให้ตรงกับสำนวนไทยนั้น ในบรรดาศัพท์ เหล่านี้ คือ อิว วิย ยถา ยถาตํ ยถา-ตถา เสยฺยถาปิ
๓.๒ ต้องเข้าใจความหมายในประโยคว่า เป็นการเปรียบเทียบอะไร เปรียบทำนองไหน เปรียบกับบทไหนในประโยค
๓.๓ ต้องประกอบกับศัพท์อย่างไร แล้ววางไว้ตรงไหนใน ประโยค
๓.๔ จะต้องใส่ศัพท์เต็มประโยคหรือควรละศัพท์ใดไว้ ไม่ต้องใส่เข้าไป แต่สามารถรู้ได้ว่าได้ละศัพท์ใดไว้
ในปกรณ์ทั้งหลาย ที่มีการเปรียบเทียบเช่นนี้ท่านมีวิธีใช้ศัพท์และ วางศัพท์ไม่แน่นอนตายตัวว่าจะต้องเป็นศัพท์นี้เท่านั้น หรือจะต้องวางไว้ ตรงนั้นเท่านั้น ใช้อย่างอื่นเป็นผิด แต่เมื่อท่านใช้ไว้แล้ว ก็สามารถรู้ ความหมายได้ทันที ดังนั้น จึงไม่อาจวางกฎระเบียบที่ตายตัวลงไปได้ใน เรื่องนี้ แต่ก็พอชี้แจงเป็นแนวทางได้ ดังต่อไปนี้
ถ้ามีการเปรียบ เทียบในระหว่างประโยค และศัพท์ที่เปรียบนั้น มีลักษณะเป็นวิเสสนะ ของบทประธานในประโยคนั่นเอง มิได้เป็นศัพท์นามที่เป็นตัวประธานใหม่ ลักษณะเช่นนี้พึงปฏิบัติดังนี้
- เรียงบทเปรียบเทียบไว้ตามลำดับเนื้อความ โดยประกอบศัพท์ให้มีลิงค์ วจนะ วิภัตติ เหมือนบทประธาน หรือนาม เจ้าของ
- เรียง วิย ศัพท์ คุมไว้ท้ายบทเปรียบเทียบนั้น ไม่นิยมใช้ศัพท์อื่น เช่น อิว หรือ ยถา
- จะใส่กิริยา หุตฺวา เข้ามาคุมหรือไม่ก็ได้ หากสุดประโยค ควรใส่กิริยา “ว่ามี ว่าเป็น” คุมประโยคไว้ด้วย เช่น
| 
 ความไทย  | 
 : พระเถระนั้น เหมือนถูกสายฟ้าฟาดที่กระหม่อม  | 
| 
 
  | 
 พูดว่า อาวุโส คุณอย่าให้ผมฉิบหายเลย ไม่มีหรอก  | 
| 
 
  | 
 กรรมรูปนี้ของผม ฯ  | 
| 
 เป็น  | 
 : โส อสนิยา มตฺถเก อาตฺถโฏ วิย มา มํ อาวุโส  | 
| 
 
  | 
 นาเสหิ, นตฺเถว มยฺหํ เอวรูปนฺติ ฯ (๕/๔๙)  | 
| 
 ความไทย  | 
 : พราหมณ์พวกนั้นได้ยินเสียงนั้นเท่านั้น เป็นประดุจ  | 
| 
 
  | 
 ลูกฆ้อนเท่าภูเขาพระสุเมรุทุบลงบนศีรษะ  | 
| 
 
  | 
 เป็น ประดุจลูกหลาวแทงที่หูทั้งสอง ถึงความไม่สบาย  | 
| 
 
  | 
 กาย และเสียใจ ฯลฯ (สนามหลวง ป.ธ.๗/๒๕๒๖)  | 
| 
 เป็น  | 
 : เต ตํ สทฺทํ สุตฺวา ว สิเนรุมตฺเตน มุคฺคเรน  | 
| 
 
  | 
 สีเส ปหฏา วิย กณฺเณสุ สูเลน วิทฺธา วิย  | 
| 
 
  | 
 ทุกฺขโทมนสฺสปฺปตฺตา ฯเปฯ (มงฺคล ๑/๑๒๐)  | 
| 
 ความไทย  | 
 : สรีระของพระเถระได้เป็นเหมือนถูกคบไฟสุมแล้ว  | 
| 
 เป็น  | 
 : เถรสฺส สรีรํ อุกฺกาหิ อาทิตฺตํ วิย อโหสิ ฯ (๕/๓๐)  | 
- ประกอบบทอุปมา (บทเปรียบ) ให้มีวิภัตติเหมือนกับบท อุปไมย (บทถูกเปรียบ) แล้วเรียงไว้หน้าบทอุปไมยบ้าง หลังกิริยาบ้าง สุดแท้แต่ความ
- ใช้ วิย ศัพท์ หรือ อิว ศัพท์ วางไว้หลังบทอุปมานั้น โดยมากใช้ วิย ศัพท์มากกว่า
ข้อสำคัญที่สุดในลักษณะนี้ก็คือ “บทอุปมาจะต้องมีวิภัตติเดียวก้บบทอุปไมย” อันนี้ถือเป็นเคร่งครัด หากประกอบผิดวิภัตติกัน ทำให้ความ หมายคลาดเคลื่อน จนไม่อาจทราบได้ว่าเปรียบอะไรกับอะไร เปรียบ ลักษณะไหน ขอให้ดูตัวอย่างต่อไปนี้
| 
 ความไทย  | 
 : ก็ ธรรมดาเทวดาทั้งหลายอาศัยเหตุบางอย่างเท่านั้น  | 
| 
 
  | 
 จึงมายังโลกมนุษย์ ซึ่งเป็นดุจที่ (ถ่าย) เว็จ  | 
| 
 
  | 
 อัน เต็มไปด้วยของไม่สะอาด ฯ  | 
| 
 เป็น  | 
 : เทวดา หิ กิญฺจิเทว การณํ ปฏิจฺจ อสุจิปูริตํ  | 
| 
 
  | 
 วจฺจฏฺฐานํ วิย มนุสฺสโลกํ อาคจฺฉนฺติ ฯ (มงฺคล ๑/๙)  | 
| 
 ชี้แจ้ง  | 
 : วจฺจฏฺฐานํ ทำหน้าที่ขยาย มนุสฺสโลกํ คือ เปรียบ  | 
| 
 
  | 
 โลกมนุษย์เหม่อนกับที่ (ถ่าย) เว็จ จึงต้องประกอบศัพท์  | 
| 
 
  | 
 ให้มีวิภัตติเสมอกัน (ทุติยาวิภัตติ)  | 
| 
 ความไทย  | 
 : ความหิวชื่อว่าความเดือดร้อน เพราะอรรถว่า เป็น 
  | 
| 
 
  | 
 เครื่องบีบคั้น ก็ภิกษุนั้นย่อมขบฉันบิณฑบาตเพื่อ  | 
| 
 
  | 
 ระงับความหิวนั้น เหมือนใช้ยาสมานแผล และเหมือน  | 
| 
 
  | 
 ใช้เครื่องป้องกันความร้อนเป็นต้นนั้น ในฤดูร้อน  | 
| 
 
  | 
 และฤดูหนาว เป็นต้น ฯ  | 
| 
 เป็น  | 
 : วิหึสา นาม ชิคจฺฉา อาพาธนฏฺเฐน, อุปรมตฺถฌญฺเจส  | 
| 
 
  | 
 ปิณฺฑปาตํ ปฏิเสวติ วณาเลปนมิว อุณฺหสีตาทีสุ  | 
| 
 
  | 
 ตปฺปฏิการํ วิย จ ฯ (วิสุทฺธิ ๑/๔๐)  | 
| 
 ชี้แจง  | 
 : วณาเลปนํ ก็ดี ตปฺปฏิการํ ก็ดี ทำหน้าที่เช่นเดียวกัน  | 
| 
 
  | 
 ปิณฺฑปาตํ คือ ถูกบริโภค (ปฏิเสวติ) เหมือนกัน  | 
| 
 
  | 
 เป็น การอุปมาขยายความบท ปิณฺฑปาตํ ให้ชัดขึ้น  | 
| 
 ความไทย  | 
 : ก็ภิกษุผู้จะให้ป้จจัยสันนิสิตศีลบริบูรณ์ จะต้องเป็น  | 
| 
 
  | 
 เหมือนสามเณรสังฆรักขิตผู้เป็นหลาน ฯ  | 
| 
 เป็น  | 
 : ปจฺจยสนฺนิสิตฺตสีลปริปูรเกน ปน ภาคิเนยฺยสงฆ-  | 
| 
 
  | 
 รกฺขิตสามเณเรน วิย ภวิตพฺพํ ฯ (มงฺคล ๑/๑๙๙)  | 
| 
 ไมใช่  | 
 : ปจฺจยสนฺนิสิตฺตสีลปริปูรเกน ปน ภาคิเนยฺยสงฆ-  | 
| 
 
  | 
 รกฺขิตสามเณโร วิย ภวิตพฺพํ ฯ  | 
| 
 ชี้แจง  | 
 : ศัพท์ว่า สามเณเรน เป็นข้อเปรียบเทียบ ปริปูรเกน  | 
| 
 
  | 
 จึงต้องมีวิภัตติเดียวกันหากใช้เป็น สามเณโร ก็ไม่รู้ว่า  | 
| 
 
  | 
 เปรียบกับบทไหนในประโยค แม้จะพอแปลได้  | 
| 
 
  | 
 ก็ผิดสัมพันธ์เสียอีก คือ ความบ่งว่า ภิกษุต้องเป็น  | 
| 
 
  | 
 เหมือนสามเณรเป็น ฯ  | 
| 
 ความไทย  | 
 : ภิกษุผู้บำเพ็ญเตจีวริกังคธุดงค์ ย่อมเป็นผู้สันโดษ  | 
| 
 
  | 
 ด้วยจีวรพอบริหารกายด้ายสันโดษนั้น เธอจึงถือ  | 
| 
 
  | 
 เอา (จีวร) เท่านั้นไปได้เหมือนนก ฯ  | 
| 
 เป็น  | 
 : เตจีวริโก ภิกฺขุ สนฺตุฏโฐ โหติ กายปริหาริเกน  | 
| 
 
  | 
 จีวเรน, เตนสฺส ปกฺขิโน วิย สมาทาเยว คมนํฯ  | 
| 
 
  | 
 (วิสุทฺธิ ๑/๘)  | 
| 
 ไมใช่  | 
 : ฯเปฯ เตนสฺส ปกขี วิย คมนํ  | 
| 
 ชี้แจง  | 
 : ภิกษุกับนกเหมือนกันในการไป ท่านเปรียบภิกษุ  | 
| 
 
  | 
 เหมือนนก ภิกษุเป็นฉัฏฐีวิภัตติ บทอุปมาก็ต้องเป็น  | 
| 
 
  | 
 ฉัฏฐีวิภัตติด้วย จับใจความได้ว่า “การไปของนก”  | 
| 
 
  | 
 หากแต่งเป็น ปกฺขี วิย ก็จะกลายเป็นว่า  | 
| 
 
  | 
 “นกกับการไปเหมือนกัน” หรือเป็นว่า  | 
| 
 
  | 
 “การไปเหมือน นก” ซึ่งไม่รู้เปรียบใน แง่ใด  | 
เพื่อความเข้าใจในเรื่องนี้อย่างชัดเจน พึงดูประโยคต่อไปนี้เป็น แนวเทียบ และพึงทำความเข้าใจให้ถ่องแท้ ถึงหลักการประกอบศัพท์คู่ กับ วิย
| 
 เช่น  | 
 : ยถา จ มาตาปิดโร อุปฏฺฐาตุํ ลเภยฺย ตถา  | 
| 
 
  | 
 นนฺทปณฺฑิเตน วิย ปฏิปชฺชิตพฺพํ ฯ (มงฺคล ๑/๓๐๔)  | 
| 
 
  | 
 (ปุตฺเตหิ เปรียบกับ นนฺทปณฺฑิเตน)  | 
| 
 ไมใช่  | 
 : ตถา นนฺทปณฺฑิโต วิย ปฏิปชฺชิตพฺพํ ฯ  | 
| 
 เช่น  | 
 : เอวํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ฐปิตานญฺหิ ปฏิลาภกาลโต  | 
| 
 
  | 
 อุทฺธํ ปริโภโค อนวชฺโช ว อธิฏฺฐหิตฺวา ฐปิตปตฺต-  | 
| 
 
  | 
 จีวรานํ วิย ฯ (มงคล ๑/๑๙๗) (การบริโภคจีวรที่  | 
| 
 
  | 
 พิจารณาแล้วเก็บไว้ไม่มีโทษ เหมือนจีวรที่  | 
| 
 
  | 
 อธิษฐานแล้วเก็บไว้)  | 
| 
 ไม่ไใช่  | 
 : ฯเปฯ อธิฏฺฐหิตฺวา ฐปิตจีวรานิ วิย ฯ  | 
| 
 เช่น  | 
 : ตตฺถ วธกปจฺจุปฏฺฐานโตติ วธกสฺส วิย ปจฺจุปฏฺฐานโต ฯ  | 
| 
 
  | 
 (วิสุทฺธิ ๒/๓) (โดยการปรากฏเหมือนเพชฌฆาต)  | 
| 
 เช่น  | 
 : อโยนิโส ปวตฺตยโต หิ อิฏฺฐชนมรณานุสฺสรเณ โสโก  | 
| 
 
  | 
 อุปฺปชฺชติ วิชาตมาตุยา ปิยปุตฺตมรณานุสฺสรเณ วิย  | 
| 
 
  | 
 ฯเปฯ (วิสุทฺธิ ๒/๒)  | 
| 
 ไม่ใช่  | 
 : ฯเปฯ วิชาตมาตุยา ปิยปุตฺตมรณานุสฺสรณํ วิย  | 
| 
 
  | 
 : ตสฺมา อาทาสตเล มุขนิมิตฺตํ ทสฺสินา วิย สเมน  | 
| 
 
  | 
 อากาเรน จกฺขูนิ อุมฺมีเลตฺวา นิมิตฺตํ คณฺหนฺเตน  | 
| 
 
  | 
 ภาเวตพฺพํ ฯ (วิสุทฺธิ ๑/๑๕๙) (บุคคลเมื่อจะถือเอา  | 
| 
 
  | 
 นิมิตทั้งลืมตาขึ้นโดยอาการอันสมํ่าเสมอ  | 
| 
 
  | 
 เหมือนคนจ้องเงาหน้าในกระจก... )โดยเปรียบผู้ลืมตา  | 
| 
 
  | 
 ถือเอานิมิตเหมือนคนดูกระจก  | 
| 
 ไม่ใช่  | 
 : ตสฺมา อาทาสตเล มุขนิมิตฺตํ ทสฺสี วิย  | 
| 
 
  | 
 (หรือ เปกฺขโก วิย) ฯเปฯ คณฺหนฺเตน...  | 
พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช ป.ธ.๙,ราชบัณฑิต). คู่มือ วิชาแปลไทยเป็นมคธ ป.ธ.๔-๙ วิชาแต่งไทยเป็นมคธ ป.ธ.๙. พิมพ์ครั้งที่ ๑. กรุงเทพฯ : บริษัท ฟองทองเอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด, ๒๕๔๔.
ที่อยู่ : 23/2 หมู่ 7 โรงเรียนพระปริยัติธรรม 
วัดพระธรรมกาย ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 12120
dummy 02-831-1000 ต่อ 13710